การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยเทคนิคมีดนาโน

การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยเทคนิคมีดนาโน

เทคนิคคลื่นความถี่ไฟฟ้า หรือ เรียกอีกอย่างว่า 'เทคนิคมีดนาโน'

         มีดนาโน คือ เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีความซับซ้อนแบบ หรือที่เราเรียกกันว่า Irreversible Electroporation (IRE)ซึ่งใช้การฉายเคลื่อนไฟฟ้าความถี่สูงผ่านเข้าไปทางชีพจรไปยังบริเวณก้อนผนังของเนื้อร้าย ก่อให้เกิดคลื่นไฟฟ้าขนาดนาโนที่ไม่สามารถที่ไหลย้อนกลับออกไปได้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อก้อนเนื้ออย่างทั่วถึงและรวดเร็ว
         มีดนาโน หรือ Nanoknife ได้รับการรับรองจากสถาบัน FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากเตียง เมื่อเดือน ตุลาคม ปี 2011 อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองกรณ์ CE ของสหภาพอียู ปัจจุบันมีรพ.มะเร็งมากกว่า 100 รพ.ที่ได้เริ่มใช้เทคนิคนี้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง และเมื่อเดือน มิถุนายาน ปี 2015 สมาคมแพทยศาสตร์ของประเทศจีนได้รับรองเทคนิคมีดนาโนนี้ ให้สามารถใช้ในการเยียวยาผู้ป่วยมะเร็งได้

♦ จุดเด่น ♦

1.ระยะเวลาในการลดขนาดก้อนเนื้อที่สั้น
ในการกำจัดก้อนเนื้อร้าย หรือก้อนมะเร็งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด สามเซนติเมตร จะใช้เวลาในการสลายก้อนเนื้อประมาณ ห้านาที ทุกๆการยิ่งคลื่นไฟฟ้าหนึ่งครั้ง จะสามารถปล่อยคลื่นไฟฟ้าเข้าไปยังชีพรขนาด 90 ครั้งต่อวินาที ในการยิงคลื่นไฟฟ้าแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณหนึ่งนาที การยิงคลื่นไฟฟ้านี้สามารถที่จะสลายเซลล์ที่มีการซ้อนกันถึง สามถึงสี่ชั้นได้ในช่วงระยะเวลาสั้น และหลังจากนั้น ถ้าผู้ป่วยก็จะมีอาการที่ดีขึ้นหลังพักฟื้น สามารถที่จะออกจากรพ.ในวันนั้นหรือวันรุ่งขึ้นได้ทันที

2.ไม่มีผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง
การใช้เทคนิคมีดนาโนมีจุดเด่นอีกข้อคือ ไม่มีผลกระทบต่อระบบเลือดหรอระบบประสาทที่สำคัญภายในบริเวณใกล้เคียง เช่น เส้นเลือด ท่อน้ำดี เส้นประสาท และท่อปัสสาวะยังสามารถที่จะทำงานได้ตามปกติ หลังจากขั้นตอนเทคนิคมีดนาโนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบหลอดเลือดของตับ เส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงตับ หรือระบบท่อน้ำดีต่างๆก็ไม่ได้ผลกระทบจากเทคนิควิธีมีดนาโนเลย

3.การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีการนำเซลล์ปกติเข้ามาแทนที่เนื้อร้าย เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
รูปแบบการสลายดั้งเดิมคือ การให้เนื้อเยื้อผ่านอุณหภูมิสูงทำให้เกิดขบวนการสลายโปรตีน หลังจากนั้นจะเกิดอาการแข็งตัวของเนื้อร้ายจนสามารถควบคุมการลุกลามของกล้ามเนื้อได้ ซึ่งการใช้วิธีนี้กับโครงสร้างเนื้อเยื้อบริเวณที่ถูกทำการสลายโปรตีน เพราะมีดนาโนจะเป็นตัวนำในขบวนการจำกัดเซลล์มะเร็ง ใช้วิธีการปลูกเซลล์ภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะสามารถควบคุมเซลล์ร้ายทั้งหมดได้ ส่งผลให้ระบบต่างๆกลับเข้ามาเป็นปกติ

4. ผลของแต่ละขั้นสามารถตรวจสอบได้ตามเวลาจริง
การเยียวยาด้วยเทคนิคมีดนาโนจะใช้ผลการตรวจอัลตราซาวนด์ CT SCAN และ MR ในการนำทางและการควบคุม ภายใต้เครื่องมือเสริมของเครื่องแสกน จะช่วยทำให้กำหนดตำแหน่งของเข็มนาโน กำหนดพื้นที่ให้การทำขบวนการสลายและสามารถตรวจสอบผลได้ในเวลานั้นเลย ขณะเดียวกันยังช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื้อบริเวณดังกล่าวเพื่อ รับประกันผลการลัพธ์และความปลอดภัยของผู้ป่วยซึ่งมีผลช่วยให้การฟื้นตัวของผู้ป่วยรวดเร็วยิ่งขึ้น

5.เทคนิคมีดนาโนเหมาะสมกับผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อน
กรณีที่ไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยบางราย กล่าวคือเนื้อร้ายอยู่ในบริเวณอันตราย อาทิ ใกล้หลอดเลือดใหญ่ ท่อน้ำดี ตับอ่อน หลอดเลือดดำที่หล่อเลี้ยงตับ นอกจากนี้ในกรณีที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหรือมะเร็งตรงกระดูกสันหลัง ซึ่งการสลายอาจจะสร้างความเสียหายต่อเส้นประสาทจนเป็นอัมพาต หรือสูญเสียการทำงานได้ เนื่องจากมีดนาโนไม่ทำร้ายท้อและเส้นประสาท สำหรับสถานการณ์ดังกล่าว การใช้เทคนิคมีดนาโนนั้นจะมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง สำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งดังกล่าวจะเหมาะสมกับเทคนิคประเภทนี้มาก

6.ตัวชี้วัดของการการดูแลผู้ป่วยด้วยเทคนิคมีดนาโน
การดูแลผู้ป่วยด้วยเทคนิคมีดนาโนเหมาะสมกับผู้ป่วยมะเร็งโดยเฉพาะตรงตับอ่อน ตับ ปอด ไต ต่อมลูกหมาก การใช้วิธีนี้จะมีข้อได้เปรียบโดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับหลอดเลือดดำที่หล่อเลี้ยงตับ ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ตับอ่อนและท่อไต

♦ เทคนิคที่แตกต่างกัน ♦

1. หลักการทางเทคนิคที่แตกต่างกัน

การใช้เทคนิคมีดนาโนจะทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถทนกับกระแสไฟฟ้าได้จนสลายไป เซลล์มะเร็งจะต่อต้านสิ่งแปลกปลอม จนสุดท้ายทำให้เซลล์มะเร็งที่มีทั้งหมดสลายไป หลังจากเซลล์มะเร็งสลายแล้วก็จะใช้วิธีการปลูกเซลล์ภูมิคุ้มกัน โดยทั่วไปเมื่อรับกระแสไฟฟ้าแรงสูงจะทำให้การฟื้นฟูกลับมาเหมือนกัน การผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุและคลื่นไฟฟ้าสลายคือวิธีการที่ผ่านความร้อนสูงเพื่อสลายโปรตีนจนทำให้เซลล์ร้ายตาย มีดอากอนฮีเลียมจะใช้วิธีการแบบความเย็นโดยการฉีดความเย็นและความร้อนไปที่ก้อนมะเร็งโดยตรงทำให้ก้อนมะเร็งอยู่ในระยะที่ควบคุมได้ไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทคนิคทั้งสองแบบนี้จะไปลดขนาดก้อนมะเร็งไปในที่สุด


2. วิธีการและขอบเขตที่แตกต่างกัน ล้วนเป็นการแทงเข็มเข้าไปที่ก้อนมะเร็งเพื่อดำเนินวิธีการเยียวยา
การทำเทคนิคคลื่นความถี่ไฟฟ้าคือ การแทงเข็มนำส่งขั้วไฟฟ้าไปที่บริเวณก้อนเนื้อมะเร็ง ฆ่ามะเร็งโดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าจากเข็มนำส่งขั้วไฟฟ้า สำหรับก้อนมะเร็งที่มีขนาดประมาณ  5 การทำความเย็นคือ ใช้เข็มจำนวนมากหลายเข็ม สูงสุดได้ประมาน10เข็ม สามารถฆ่าก้อนเนื้อมะเร็งที่มีขนาด 7-8เซนติเมตร
ส่วนเทคนิคมีดนาโนคือ โดยการใช้ขั้วไฟฟ้าคู่ สามารถฆ่าก้อนเนื้อมะเร็งที่มีขนาดประมาณ 3เซนติเมตร สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้หลายครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น


3. เทคนิคมีดนาโมเหมาะสำหรับอาการและบริเวณของโรคที่ไม่เหมือนกัน
เทคนิคมีดนาโน ไม่สามารถที่จะใช้ร่วมกับมะเร็งหรือก้อนเนื้อร้ายที่อยู่ใกล้หัวใจ, มะเร็งหรือก้อนเนื้อที่อยู่ใกล้กับระบบทางเดินอาหาร, มะเร็งหรือก้อนเนื้อร้ายที่อยู่ใกล้ถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดี, และมะเร็งหรือก้อนเนื้อร้ายที่อยู่ใกล้กับระบบขับถ่ายปัสสาวะ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งที่อยู่รอบๆอวัยวะตับ
มีดอาร์กอนและฮีเลียม ไม่สามารถที่จะใช้กับมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณโดยรอบของอวัยวะที่เป็นหลอด เช่น มะเร็งบริเวณหลอดลม และมะเร็งลำไส้
แต่การบำบัดด้วยมีดนาโนไม่มีข้อจำกัดต่อก้อนเนื้อหรือมะเร็งที่เกิดขึ้นรอบๆอวัยวะที่เป็นหลอด แต่เทคนิคมีดนาโนสามารถที่จะใช้กับผู้ป่วยที่มีการผ่าตัดใส่เหล็กดามร่างกาย และผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบหลอดเลือดและหัวใจ

**หมายเหตุ : ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

ติดตามข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้ดีๆจากเราได้ที่
FB: https://www.facebook.com/cancerhospitalth/
Website: http://www.moderncancerthai.com/
Line Official: moderncancer
-------------------------------------------
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
02-645-2499 , 082-799-2888 , 099-671-9321 , 02-645-2799
รพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสตมฟอร์ด