การรักษามะเร็งตับอ่อนแบบผ่าตัดเล็ก
มะเร็งตับอ่อน – นอกจากการผ่าตัด ยังมีทางเลือกอื่นอีกไหม?
การเป็นมะเร็งตับอ่อน หมายถึงไม่มีทางรักษาให้หายได้จริงหรือ?
คุณ(เหวียนเซิง)จากประเทศเวียดนามขอถ่ายทอดประสบการณ์จริงให้คุณฟัง:
เขาปฏิเสธการผ่าตัดแต่ก็ยังสามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
ที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
เขาเอาชนะความสิ้นหวังจากมะเร็งตับอ่อนระยะท้ายด้วยการรักษาแบบบาดแผลเล็ก ที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ
และไม่มีแผล
โรคมะเร็งไม่ใช่ทางตันแค่เลือกแนวทางการรักษาให้ถูก ความหวังก็ยังมีอยู่เสมอ!
เรื่องราวของผู้ป่วยเหวียนเซิง:
หลังจากที่ผมปฏิเสธคำแนะนำให้ผ่าตัดและทำเคมีบำบัดจากแพทย์ในญี่ปุ่นและเวียดนาม
ผมก็ได้มีโอกาสรู้จักกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวและเทคนิคการรักษามะเร็งแบบบาดแผลเล็ก”
ผู้ป่วยชาวเวียดนามวัย 83 ปีที่ป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน คุณเหวียนเชิง กล่าวด้วยความประทับใจ
“ผมได้รับการรักษาด้วยการฝังแร่ที่นี่ ซึ่งช่วยให้ร่างกายของผมฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
และแทบไม่มีผลข้างเคียงจากการรักษาเลย
โรงพยาบาลแห่งนี้ยังนำระบบบริหารจัดการทางการแพทย์ระดับสูงจากสิงคโปร์มาใช้
สภาพแวดล้อมและบริการในโรงพยาบาลมีความเป็นสากลและใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาก
ทั้งแพทย์และพยาบาลก็ดูแลผมเป็นอย่างดี ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขาอย่างสุดซึ้ง

ทำไมการรักษามะเร็งตับอ่อน การผ่ารักษาแบบบาดแผลเล็กถึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น?
มะเร็งตับอ่อนมักถูกตรวจพบในระยะที่ลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงหรือแพร่กระจายไปไกล แม้ผู้ป่วยจะไม่มีอาการชัดเจน
แต่อาจกระทบอวัยวะสำคัญอื่นได้
อีกทั้ง ตับอ่อนตั้งอยู่ใกล้กับอวัยวะสำคัญอย่างม้าม การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูง
การฉายแสงก็อาจมีผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ลดความทนทานของร่างกาย และอาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
ซึ่งส่งผลเสียต่อผลลัพธ์ของการรักษา
ในทางกลับกัน การรักษาเนื้องอกแบบบาดแผลเล็กมีข้อดีคือ บาดแผลเล็ก ฟื้นตัวไว
และได้ผลชัดเจนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนในยุคปัจจุบัน


ทำไมจึงควรเลือกโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวในการรักษามะเร็งตับอ่อน?
การรักษามะเร็งตับอ่อนมักจำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาเช่น ศัลยแพทย์ แพทย์ด้านมะเร็ง และแพทย์ระบบทางเดินอาหารเป้าหมายหลักของการรักษามะเร็งตับอ่อนคือการเอาก้อนมะเร็งและเซลล์มะเร็งออกให้หมดแต่หากไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เป้าหมายรองคือการควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็งในกรณีที่ผู้ป่วยอยู่ในระยะลุกลามหรือระยะสุดท้ายการรักษาอาจไม่ได้ผลดีมากนัก เป้าหมายหลักจะเปลี่ยนเป็นการดูแลแบบประคับประคอง เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

