มะเร็งต่อมน้ำเหลืองHodgkin | โรงพยาบาลเซนต์แดนฟอร์ดแคนตันโมเดิร์นสำหรับเนื้องอก

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองHodgkin

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin คืออะไร?

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin หรือเรียกว่า Hodgkin's lymphoma เกิดจากเซลล์ต้นกำเนิดเซลล์เม็ดเลือดขาวลิมโฟไซท์ชนิดบี ลักษณะเด่นของโรคนี้คือพบเซลล์ Reed-Sternberg ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาว B ขนาดใหญ่ที่ผิดปกติ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin มักเกิดขึ้นในต่อมน้ำเหลือง แต่ก็สามารถพบได้ตามเนื้อเยื่อและอวัยวะน้ำเหลืองอื่นๆ ได้เช่นกัน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin แบ่งออกเป็นชนิดย่อยต่างๆ ได้แก่ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin แบบคลาสสิกและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin แบบเซลล์ผสม มะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin แบบคลาสสิกแบ่งออกเป็นสี่ชนิดย่อย:

1 Nodular Sclerosis Hodgkin lymphoma (NSCHL)

2 Mixed-Cellularity Hodgkin lymphoma (MCCHL)

3 Lymphocyte-rich Classical Hodgkin lymphoma (LRCHL)

4 Lymphocyte-depleted Hodgkin lymphoma (LDCHL)

>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์

ฉันต้องการลงทะเบียน

ไม่รู้วิธีการรักษาที่เหมาะกับคุณใช่หรือไม่? เพียงกดส่งข้อมูลเพื่อปรึกษาทางออนไลน์ ก็จะได้รับคำแนะนำในการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ

ชื่อผู้ป่วย:

ประเภทมะเร็ง:

หมายเลขโทรศัพท์:

มีรายงานทางการแพทย์หรือไม่:

ใช่ ไม่มี

การรักษาแบบดั้งเดิม

การรักษาด้วยการผ่าตัด การผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อมะเร็งออกและ ต่อมน้ำเหลืองที่ปากมดลูกอาจมีการแพร่กระจาย
รังสีบำบัด การรักษาด้วยการฉายรังสีมีไว้สำ หรับมะเร็งต่อมฟอลลิคูลาร์
เคมีบำบัด มักจะใช้งานไม่ได้หรือ การรักษาแบบประคับประคองของมะเร็งระย ะลุกลามที่มีการแพร่กระจายระยะไกล
การรักษาแบบจีน การรักษาด้วยยาแผนจีนสามารถยับยั้งการพัฒนาของมะเร็ง ปรับปรุงการทำงานของภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมะเร็งมะเร็งต่อมน้ำเหลืองHodgkin และลดพิษและผลข้างเคียงของรังสีรักษาและเคมีบำบัด

การรักษาแบบบาดแผลเล็ก

วิธีการแบบทั่วไป

การผ่าตัด: ปากแผลขนาดใหญ่ และมีความเสี่ยงสูง

การฉายแสงและคีโม: มีผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น ผมร่วง การอาเจียน

เทคนิคใหม่ในการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin:

การรักษาแบบบาดแผลเล็ก สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและยืดอายุของผู้ป่วยได้: ปากแผลเล็กเพียง 2-3 มม. มีผลข้างเคียงและความเจ็บปวดน้อย

การคีโมเฉพาะจุด: บาดแผลขนาดเล็ก 1-2 มม. การฉีดยารักษาโรคเข้าไปยังก้อนมะเร็งโดยตรง ทำให้ความเข้มข้นสูงกว่าการคีโมทั่วร่างกายถึง 2-92 เท่า มีผลข้างเคียงน้อยและสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ

การจี้เย็น: บาดแผลเล็ก ทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งได้ตรงจุด กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อปกติ และป้องกันการเกิดซ้ำของมะเร็งได้

การฝังแร่: บาดแผลมีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร รังสีจะฉายไปยังก้อนมะเร็งอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเป็นเวลา 180 วัน ทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งได้อย่างแม่นยำโดยมีภาวะแทรกซ้อนเล็กน้อย

การจี้ด้วยคลื่นไมโครเวฟ: รูเข็มขนาด 3 มม. อัตราความร้อนสูงและใช้เวลาทำหัตถการสั้น ปกติสามารถกำจัดมะเร็งที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 ซม. ได้ภายใน 10 นาที มีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ลดอัตราการเกิดซ้ำต่ำ และใช้รักษาได้หลายโรค

การผสมผสานแพทย์แผนจีนและตะวันตก: เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ลดผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนได้ เร่งการฟื้นฟูของร่างกาย และยืดอายุผู้ป่วยได้

เรื่องราวของผู้ป่วย

: คุณKAISORN; ลาว มะเร็งตับ; แผนการรักษา: คีโมเฉพาะจุด + ภูมิคุ้มกันบำบัด; ประวัติย่อ: ผุ้ป่วยร่างกายแข็งแรงตามเดิม ได้กลับไปทำงานที่ตนเองชอบต่อ เริ่มเล่นกอร์ฟในการออกกำลังกายที่ตนเองชอบอีกครั้ง ได้ประสบชีวิตอนาคตของตนเองต่อ

: ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา; ไทย มะเร็งปอด; แผนการรักษา: การคีโมเฉพาะจุด + การฝังแร่ + ภูมิคุ้มกันบำบัด; ประวัติย่อ: ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา จากประเทศไทย ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดในปี พ.ศ. 2564 หลังจากการผ่าตัดที่โรงพยาบาลในท้องที่ ก็กลับมาเป็นซ้ำและเกิดการแพร่กระจาย เนื่องจากอายุมากแล้วและเป็นโรคความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง ทำให้เขาไม่สามารถทนการรักษาแบบทั่วไปได้ เขาจึงมาโรงพยาบาลของเราในเดือนมีนาคม 2566 เพื่อค้นหาวิธีการรักษาแบบใหม่ หลังจากรักษาด้วยวิธีบา

: คุณอมร; ประเทศไทย มะเร็งปอด; แผนการรักษา: เทคนิคคีโมเฉพาะจุด+คลื่นไมโครเวฟบริเวณหลอดลม+การฝังแร่+ภูมิคุ้มกันบำบัด; ประวัติย่อ: คุณอมร อายุ 77 ปี จากประเทศไทย เดือนมีนาคม ปี 2562 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 ไม่ได้เข้ารับการรักษาใดๆ วันที่ 29 เดือนมีนาคม มาถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว เข้ารับการรักษาด้วยวิธีบาดแผลเล็ก ผลการรักษาพบว่าก้อนเนื้อบริเวณปอดข้างซ้ายมีขนาดเล็กลงอย่างชัดเจน ต่อมน้ำเหลืองที่โตบริเวณช่องอกสลายไป สุขภาพร่างกายอยู่ในสถานะที่สมบ

: คุณประสิทธิ์; ประเทศไทย มะเร็งคอ; แผนการรักษา: เทคนิคแบบเฉพาะจุด + เทคนิคการใช้ความเย็น; ประวัติย่อ: ก่อนเข้ารับการรักษาหลังจากเข้ารับการรักษาไปหนึ่งครั้งปี 2017 4เมษายน เป็นครั้งแรกที่ได้ทานอาหารไทยในประเทศจีน คุณประสิทธิ์มีความสุขมาก ดูเหมือนว่าเขาจะกินปลาไปเกือบทั้งตัว “อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่ดีที่สุดมื้อหนึ่งเท่าที่ผมเคยกินมาในรอบ 4 ปี!” เขาได้กล่าวออกมาอย่างพึงพอใจหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว เนื่องจากก้อนเนื้อขนาดใหญ่บริเวณคอ ทำให

: โมชาหมัด ซาดิกิน; อินโดนีเซีย มะเร็งปอด; แผนการรักษา: การคีโมเฉพาะจุด + ยามุ่งเป้า + ธรรมชาติบำบัด; ประวัติย่อ: Mochamad Sadikin วัย 68 ปี จากจาการ์ตา อินโดนีเซีย เนื่องจากมีอาการไอต่อเนื่อง หายใจลำบาก และอาการอื่นๆ จึงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ในปี 2566 หลังการรักษาแบบแผลเล็กที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว อาการไอและอาการอื่นๆดีขึ้น ก้อนมะเร็งในปอดหายไป และคุณภาพชีวิตก็ดีขึ้น

ทีม MDT

: ซ่งชื่อจวิน; แพทย์ชำนาญการ

: เผิงเสี่ยวชื่อ; ผู้อำนวยการแผนกมะเร็งวิทยาระหว่างประเทศ

: ไต้เหวินเยี่ยน; ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะทางมะเร็งเต้านม

: หม่าเสียวหยิ่ง; ผู้อำนวยการฝ่ายมะเร็งวิทยา

: เจินเยี่ยนลี่; ผู้อำนวยการแผนกรังสีวิทยา

: ยิน ผิงซ่าน; ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยา

นัดหมาย

ชื่อผู้ป่วย:

ประเภทมะเร็ง:

เบอร์โทร:

มีรายงานทางการแพทย์หรือไม่*

มี ไม่มี

อาการ

1. ต่อมน้ำเหลืองโต: เป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin ต่อมน้ำเหลืองตามบริเวณต่างๆ เช่น คอ รักแร้ และขาหนีบจะโตขึ้น มักไม่มีอาการปวดหรือปวดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

2. ความเหนื่อยล้า: ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหนื่อยเป็นเวลานานและฟื้นฟูเรี่ยวแรงได้ยาก

3. ไข้: อาจมีไข้ต่อเนื่องหรือเป็นพักๆ อาการจะยิ่งชัดตอนกลางคืน

4. เหงื่อออกตอนกลางคืน: มักมีอาการเหงื่อออกมากในตอนกลางคืน บางครั้งเหงื่อมากจนผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าเปียกโชก

5. น้ำหนักลง: การที่น้ำหนักลงโดยไม่ทราบสาเหตุอาจเป็นหนึ่งในอาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin ซึ่งสัมพันธ์กับการอยากอาหารน้อยลงและระบบเผาผลาญที่เปลี่ยนไป

6. อาการคัน: ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคันตามผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่ต่อมน้ำเหลืองโต

7. เจ็บหน้าอกหรือท้อง: หากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองลามไปที่หน้าอกหรือช่องท้องอาจทำให้เกิดอาการปวดบริเวณนั้นได้

8. อาการไอหรือหายใจลำบาก : หากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกดทับบริเวณหน้าอกหรือปอดอาจทำให้เกิดอาการไอ หายใจลำบาก หรืออาการอื่นๆได้ หากต้องการความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็งกรุณาคลิกปรึกษาแพทย์ออนไลน์เพื่อขอคำปรึกษา

>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์

การวินิจฉัย

แบ่งระยะ

การแบ่งระยะมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin จะยึดตามระบบ Ann Arbor ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กันทั่วไปในการอธิบายระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ระบบการแบ่งระยะ Ann Arbor แบ่งมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin ออกเป็นสี่ระยะหลัก รวมถึงระยะแยกย่อยในแต่ละระยะ

1. ระยะ1: มะเร็งอยู่แค่ต่อมน้ำเหลืองจุดเดียว

ระยะ A: ไม่มีอาการใดๆ

ระยะ B: มีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักลด

2. ระยะที่ 2: มะเร็งลามต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไปในฝั่งเดียวกัน (ระหว่างกล้ามเนื้อหน้าอกและช่องท้อง)

ระยะ A: ไม่มีอาการใดๆ

ระยะ B: มีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักลด

3. ระยะที่ 3: มะเร็งแพร่กระจายไปยังกระบังลมทั้งสองข้างหรือบริเวณต่อมน้ำเหลืองอื่นๆนอกเหนือจากหน้าอกและช่องท้อง

ระยะ A: ไม่มีอาการใดๆ

ระยะ B: มีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักลด

4. ระยะที่ 4: มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะที่ไม่ใช่ต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 1 จุดขึ้นไป เช่น ปอด ตับ ไขกระดูก เป็นต้น

ระยะ A: ไม่มีอาการใดๆ

ระยะ B: มีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักลด

ในระบบการแบ่งระยะ Ann Arbor ลักษณะอาการโรคจะมีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน และน้ำหนักลด ซึ่งการกำหนดระยะที่แน่นอนต้องอาศัยการตรวจหลายรายการด้วยกัน เช่น การตรวจร่างกาย การตรวจด้วยด้วยเครื่องฉายภาพรังสี (เช่น CT scan, PET-CT scan) การตรวจชิ้นเนื้อต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น