ฉันชื่อ Winda Fitrianah Muchlis จากจาการ์ตา อินโดนีเซีย ปัจจุบันอายุ 45 ปี ตอนนี้ด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อของฉัน คุณมองออกไหมว่าฉันเคยเป็นผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่ระยะที่ 4
การผ่าตัดทำให้กลับมาเป็นมะเร็งรังไข่ซ้ำ
ในเดือนมิถุนายน 2559 ฉันรู้สึกปวดท้องจนทนไม่ไหว หลังจากตรวจที่โรงพยาบาลในพื้นที่ พบเนื้องอกที่รังไข่ด้านซ้ายขนาดประมาณ 9 ซม. แพทย์แนะนำให้ผ่าตัดออก ฉันตกใจมากและเข้ารับการรักษาทันที เดิมทีฉันคิดว่าหลังจากเอาเนื้องอกออกแล้วก็จะจบและบอกลามะเร็งไป แต่หลังการผ่าตัดไม่นานในเดือนธันวาคม  ฉันรู้สึกปวดท้องและไม่สบายอีกครั้ง หลังจากตรวจร่างกายผลปรากฏว่าเนื้องอกที่ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกรานมีขนาดประมาณ 1.4 ซม. พอทราบข่าวก็รู้สึกสิ้นหวังและคิดว่า “ฉันจะต้องทรมานจากมะเร็งไปตลอดชีวิตหรือเปล่า?”
โชคดีที่ฉันทราบว่าลุงของฉันเคยรับการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสตมฟอร์ด ตอนนี้กลับมาสุขภาพดีและบอกลาโรคมะเร็งแล้ว จากประสบการณ์ที่สมาชิกในครอบครัวประสบความสำเร็จในการรักษา ทำให้ฉันเชื่อว่าฉันสามารถหายได้เช่นกันจึงมารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสตมฟอร์ด
เดือนมกราคม ปี 2560  ฉันได้มาที่โรงพยาบาล หลังจากการผ่าตัดมะเร็งรังไข่ไป 8 เดือนกว่า ตอนนั้นฉันปวดท้อง ท้องเสีย และมีอาการอื่นๆ รู้สึกอ่อนแอมาก ตอนที่ฉันเข้าโรงพยาบาลทั้งพยาบาลและคุณหมอก็ทักทายฉันด้วยน้ำเสียงเบาๆ บอกให้ฉันพักผ่อนก่อน 1 วันแล้วค่อยทำการตรวจสุขภาพ หลังจากตรวจสุขภาพเสร็จฉันได้รับการวินิจฉัยว่ากลับมาเป็นมะเร็งรังไข่ด้านซ้ายซ้ำหลังการผ่าตัด (ระยะที่ 4) โดยมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณกะบังลม ต่อมน้ำเหลืองใต้กระดูกไหปลาร้า หลังจากทีมแพทย์ MDT ของโรงพยาบาลทำการวิจัยอาการดังกล่าวได้กำหนดแผนการรักษาแบบบาดแผลเล็กและภูมิคุ้มกันบำบัด

>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์

ปี 2566 ฉันมอบคำอวยพรให้แก่ผู้ป่วยมะเร็ง

กาารักษาแบบบาดแผลเล็กสามารถกำจัดเนื้องอกในร่างกายได้

หลังจากรักษาแบบบาดแผลเล็กในครั้งแรก ฉันพอใจในผลของการรักษาเป็นอย่างมาก ขณะทำการรักษาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย การรักษาแบบบาดแผลเล็กได้ขจัดความกังวลและความกลัวจากการรักษามะเร็งแบบเดิมๆ ฉันรู้สึกไม่มีความกดดันใดๆเลย หลังจากการรักษาได้ไม่นาน สภาพร่างกายของฉันก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ปวดท้อง ท้องเสียอีกต่อไป ฉันมีความสุขมากๆ ฉันเริ่มหัวเราะกับคนไข้ชาวอินโดนีเซียคนอื่นๆและพูดคุยกับพยาบาล เวลาออกไปทานข้าวและเดินเล่น แพทย์และพยาบาลต่างดีใจและแสดงความยินดีที่เห็นฉันสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น
หลังจากการคีโมเฉพาะจุดครั้งที่สาม ผลการตรวจพบว่าเนื้องอกขนาดประมาณ 1.4 ซม. "หายไป" อย่างสมบูรณ์ หลังจากทราบข่าวก็ดีใจและซาบซึ้งใจมาก ฉันได้สัมผัสกับผลลัพธ์และความเร็วของเทคโนโลยีการรักษา รู้สึกว่าร่างกายของฉันค่อยๆ แข็งแรงขึ้น และพบกับความประหลาดใจไม่รู้จบ ฉันไม่เสียใจเลยที่เดินทางหลายพันไมล์เพื่อมารักษาที่จีน

ในปี 2560 ฉันมารักษาที่โรงพยาบาลเป็นครั้งที่สอง

เทวดาน้อยลงมาจุติ ปลื้มปิติจนน้ำตาคลอ

ในฐานะผู้ที่กลับมาเป็นมะเร็งรังไข่ระยะ 4 ซ้ำหลังการผ่าตัดและการรักษามะเร็งด้วยวิธีอื่นๆ ฉันไม่กล้าคาดหวังว่าจะมีลูกได้อีก หลังจากได้รับการรักษาโรคมะเร็งแบบบาดแผลเล็กที่ได้มาตรฐานที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ฉันทำตามคำแนะนำของแพทย์ ปรับพฤติกรรมอาหารการกิน การออกกำลังกาย  การใช้ชีวิต ฯลฯ  จนวันหนึ่งเทวดาตัวน้อยของฉันก็ลงมาจุติหาฉันจริงๆ! จนถึงวินาทีที่ฉันเห็นทารกที่แข็งแรงและน่ารัก ฉันรู้สึกเหมือนได้พบสมบัติและปลื้มปิติด้วยความดีใจ! ขอบคุณพระเจ้าที่นำทางให้ฉันมาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด และได้รับการรักษาแบบบาดแผลเล็กที่มีคุณภาพสูง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ฉันแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังรักษาการทำงานของรังไข่อีกด้วย  แม้แต่แพทย์ชาวอินโดนีเซียของฉันก็ประหลาดใจ ไม่เคยเห็นผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ระยะ 4 ที่มีการทำงานของรังไข่ดีขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอดบุตรพวกเขาใส่ใจฉันอย่างใกล้ชิดจนเด็กเกิดมาอย่างปลอดภัย  พวกเขาต่างชื่นชมเทคโนโลยีการรักษามะเร็งของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ซึ่งสามารถมอบความหวังและชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งได้อย่างแท้จริง!

>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888  0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์

ปี 2566 ภาพถ่ายของฉันกับลูก

หลังจากผ่านไป 6 ปี ฉันขอบคุณแพทย์ที่ทำการรักษาอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ฉันกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งในฐานะผู้กล้าต้านมะเร็งที่รอดชีวิตมาแล้ว 6 ปี ฉันรู้สึกเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและซาบซึ้ง สิ่งที่น่าประหลาดใจคือฉันได้พบกับหมอหลิน จิงที่เป็นผู้รักษาฉันในเวลานั้น ฉันทักทายและได้กล่าวขอบคุณหมอหลินด้วยรอยยิ้ม เราพูดคุยเรื่องประสบการณ์การรักษาในโรงพยาบาลกันไม่หยุดและอวยพรให้กันและกัน

ปี ค.ศ.2023 ภาพถ่ายของฉันกับคุณหมอหลิน

ในปี 2560 หมอหลินเห็นฉันครั้งแรกในสภาพอ่อนแอ จากการรักษาที่ทุ่มเทของหมอหลิน เธอค่อยๆเห็นฉันกลับมาเป็นคนที่แข็งแรงอีกครั้ง จากที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงจนค่อยๆฟื้นฟูทีละน้อย โดยท้ายที่สุดฉันได้ออกจากโรงพยาบาลด้วยร่างกายที่แข็งแรง จนถึงตอนนี้ผ่านไป 6 ปีแล้ว ฉันกลับมาร่าเริงมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ได้เห็นใบหน้าของคุณหมอหลินที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข หมอหลินได้แสดงความยินดีกับการเกิดใหม่ของฉัน และได้เตือนฉันให้ทำการตรวจสุขภาพเป็นประจำ อวยพรให้ฉันมีสุขภาพที่แข็งแรงไปตลอด
ก่อนที่งานจะเริ่มเมื่อหมอหลินออกมาจากประตู ฉันรู้สึกเหมือนได้พบอาจารย์ของฉันอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปี ฉันพูดอย่างยินดีว่า "ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ตอนนี้ฉันไม่ได้เตรียมตัวเลย" ฉันแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการและยกย่องในเทคโนโลยีการรักษา เธอไม่เพียงช่วยให้ฉันได้รับชีวิตใหม่ แต่ยังทำให้ฉันสามารถมีลูกได้ เมื่อมองย้อนกลับไปที่การรักษาในปีนั้น หมอหลินชี้แจงอาการของฉันอยู่หลายครั้ง ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจมาก ฉันขออวยพรให้คุณหมอหลินมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข และมีอายุยืนนาน

>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์

เลือกวิธีการรักษาอย่างชาญฉลาด เพื่อเอาชนะมะเร็ง!
จากประสบการณ์ตรงที่ฉันเคยกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ ฉันก็มักจะเตือนผู้ป่วยมะเร็งท่านอื่นอยู่เสมอให้เลือกวิธีการรักษาให้ถูกต้องและเหมาะสมมากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่ร่างกายจะได้รับ ในระหว่างกระบวนการรักษา บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลและแพทย์ก็คอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี สภาพแวดล้อมที่อบอุ่นเหมือนกับอยู่บ้านก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันเอาชนะมะเร็งมาได้ ฉันอยากแนะนำเหล่าผู้ป่วยมะเร็งทุกท่านที่กำลังสู้กับมะเร็งอยู่ให้ใส่ใจกับวิธีการรักษาและสภาพแวดล้อมในการรักษา ขอเพียงมีจิตใจที่แจ่มใส มีความสุข ก็จะสามารถเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งได้
ในกิจกรรม “เส้นทางต้านมะเร็งอันยาวไกล เชื่อมโยงสายใยแห่งความผูกพัน”เหล่าผู้กล้าต้านมะเร็งกลับคืนสู่เหย้า ฉันรู้สึกขอบคุณอีกครั้ง เมื่อนึกย้อนกลับไปวันแรกที่ฉันต้องเผชิญกับความสิ้นหวังและความเจ็บปวดที่โรคมะเร็งนำมาให้ ฉันไม่อาจยอมรับความจริงว่าไม่สามารถมีลูกได้ จำเป็นต้องผ่าตัดอย่างช่วยไม่ได้ ความรู้สึกหวาดวิตกและโศกเศร้าเมื่อกลับมาเป็นมะเร็งอีกครั้ง จนเมื่อฉันได้ยินคำชี้นำจากเบื้องบน ทำให้ฉันได้พบกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว ฉันเอาชนะมะเร็งร้ายนี้ได้อย่างสบายๆ ไม่เพียงแต่จะได้ร่างกายที่แข็งแรงกลับมา แต่ฉันยังโชคดีที่ได้ลูกชายที่เฉลียวฉลาดมาอีกคนด้วย ฉันขอบคุณตนเองที่ไม่ได้ยอมแพ้ไปเสียก่อน และขอบคุณโรงพยาบาลที่ช่วยเหลือ หากไม่มีการรักษาที่ตรงจุดและดีเยี่ยมของโรงพยาบาล ก็คงไม่มีฉันในวันนี้

หวังว่าผู้ป่วยมะเร็งท่านอื่นจะได้รับโอกาสในการรักษาที่ดี ในขณะเผชิญหน้ากับมะเร็ง ให้ภาวนาด้วยใจศรัทธาและไม่ยอมแพ้!

ในปี 2560 ขณะที่ทำการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล