การคีโมเฉพาะจุดช่วยให้ฉันมีความสุขต่อไป
-
หยางซูหรง
-
อินโดนีเซีย
อยู่ได้นานกว่า 13 ปี
-
แผนการรักษา:
คีโมเฉพาะจุด
หยางซูหรงและ ดร. ลิน
"เราจะต้องอดทน ต้องมองโลกในแง่ดี อย่ายอมแพ้ และอย่าลืมอธิษฐาน หากเรามีความพยายามพระเจ้าย่อมเปิดทางให้เราแน่นอน" - หยางซูหรง
บททดสอบที่พระเจ้าประทานให้ฉัน
ก่อนอายุ 54 ปี หยางซูหรงมีชีวิตที่สุขสงบ ในวัยที่งดงามที่สุดของเธอ มีชายคนหนึ่งตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น หลังครองรักกันสามปีผ่านไปชายคนนี้ก็กลายเป็นสามีของเธอ หลังจากแต่งงานพวกเขาต่างเคารพซึ่งกันและกัน สามีไม่เคยลืมวันเกิดของเธอ ต่อมาพวกเขามีลูกด้วยกันสองคน ผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 1 คน เด็ก ๆ ว่านอนสอนง่ายมาก พอพวกเขาโตขึ้นก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้สร้างความพอใจให้แก่เธอมาก
และแล้วในเดือนพฤษภาคม 2011 หยางซูหรงก็มาถึงจุดพลิกผัน เมื่อคลำเจอก้อนเนื้อขนาด 2.5 ซม. ที่เต้านมทั้ง 2 ข้างขณะที่เธออาบน้ำ พอตรวจก็ได้รับวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม หยางซูหรงรู้สึกกังวลมาก เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่อป่วยเป็นโรคที่ "จะต้องตาย" นี้ แถมแม่ของเธอก็เสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านม! สามีของเธอปลอบใจเธอว่านั่นเป็นบททดสอบของพระเจ้าสําหรับพวกเขา ในเรื่องการรักษามะเร็งเต้านม แม่ของเธอเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งแพร่กระจายจนไม่อาจรักษาได้ หยางซูหรงจึงกลัวการผ่าตัดมากและเลือกการรักษาแบบดั้งเดิม
ถึงแม้มะเร็งจะมาโดยไม่คาดคิด แต่ก็ไม่อาจขัดขวางชีวิตที่มีความสุขของหยางซูหรงได้ เธอเข้ารับการรักษาไปพร้อมกับเข้าร่วมงานแต่งงานของลูกชาย......
หยางซูหรง และสามีของเธอ
ได้พบสายรุ้งหลังพายุ
ในเดือนพฤษภาคม 2013 รูปร่างเต้านมของหยางซูหรงได้เปลี่ยนไป: ก้อนเนื้อที่เต้านมด้านขวาหายไป แต่ก้อนขนาดเล็กที่เต้านมด้านซ้ายกลับโตขึ้นถึง 10×10 ซม. ราวกับมีอะไรกลมๆม่วงๆติดอยู่ แถมยังมีของเหลวไหลออกมา ขณะเดียวกันต่อมน้ำหลืองใต้รักแร้ซ้ายก็โตขึ้น (2×3 ซม.) เพื่อบรรเทาอาการปวดและบวมเธอได้ซื้อปลิงมาสิบกว่าตัว ปล่อยให้พวกมันดูดเลือดตรงก้อนเนื้อ แน่นอนว่าเธอรู้สึกขยะแขยง แต่ก็จนปัญญาจริงๆ เพราะหลังจากทําแบบนี้ร่างกายของเธอรู้สึกสบายขึ้น
แต่นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว ในที่สุด หยางซูหรงก็ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด เพื่อความปลอดภัย เธอจึงตัดสินใจไปรักษาที่ต่างประเทศ ี้ขณะนั้นเพื่อนสนิทของเธอกําลังจะไปรักษาติดตามผลที่โรงพยาบาลมะเร็งกวางโจวสแตมฟอร์ดพอดี เขาจึงชวนเธอไปด้วย หยางซูหรงเชื่อเสมอว่าการได้มาเจอโรงพยาบาลมะเร็งกวางโจวสแตมฟอร์ดเป็นการนําทางของพระเจ้า เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2013 หยางซูหรงมาตรวจที่โรงพยาบาล ค่า CEA อยู่ที่ 1129.14ng/ml และ CA153 อยู่ที่ 53.1U/ml หลังจากปรึกษาทีม MDT แพทย์บอกเธอว่าเมื่อประเมินจากอาการของเธอ นอกจากการผ่าตัดที่เธอต้องการ ยังต้องทำการคีโมเฉพาะจุดและเคมีบําบัดทั่วไปเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งให้หมดเกลี้ยง
ไม่กี่วันต่อมาศัลยแพทย์เต้านมได้ทําการผ่าตัดก้อนเนื้อที่เต้านมด้านซ้ายให้เธอ ผลพยาธิวิทยาพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมแบบลุกลามออกนอกท่อน้ำนมระยะ III.B ซึ่งถือเป็นระยะลุกลาม
การผ่าตัดประสบความสําเร็จในการกําจัดก้อนเนื้อและเนื้อเยื่อที่ถูกมะเร็งลุกลามไป ต่อมา หยางซูหรงก็เริ่มทําคีโมเฉพาะจุด เนื่องจากรักษาร่วมกับการคีโมผ่านหลอดเลือดดำเล็กน้อย ส่งผลให้ผมเธอค่อยๆร่วงจนหมดหัว สามีสังเกตเห็นถึงความรักสวยรักงามของหยางซูหรง เขาได้ซื้อวิกผมให้เธอ 5 วิก หยางซูหรงใช้ชีวิตกับวิกทั้งห้าเป็นเวลาเกือบครึ่งปี จนกระทั่งสิ้นสุดการรักษาในเดือนธันวาคม 2013 ผมสีดำขลับก็งอกหนาจนเธอไม่จำเป็นต้องสวมวิกผมอีกต่อไป
ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 3 ปี หยางซูหรงมีเรือนผมที่ยาวและสวยงาม เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2558 เธอกับสามีเดินทางไปกวางโจวเพื่อตรวจติดตามผล ผลตรวจในครั้งนี้ก็เป็นปกติ ไม่มีสัญญาณของการกลับมาเป็นซ้ำ เธอก้าวข้ามอุปสรรคอย่างโรคมะเร็งและได้มีชีวิตใหม่ พอหลานสาวสองคนของเธอเกิดมา เธอก็ได้กลายเป็นคุณยาย หยางซูหรงรักและหวงแหนชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เธอทานแต่อาหารรสอ่อน เดินเร็วและวิ่งอยู่เสมอ ทุกๆวันเสาร์เธอจะพบปะเพื่อน ๆ เพื่อทานข้าว ดื่มชา พูดคุยหรือดูละคร
หยางซูหรง เชื่อว่าเธอไม่สามารถเอาชนะมะเร็งได้หากปราศจากพรของพระเจ้า ดังนั้นเธอจึงหวังว่าการแบ่งปันประสบการณ์มะเร็งของเธอจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยรายอื่นในการต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วย เธอมักจะเข้าร่วมการบรรยายด้านมะเร็ง และไม่อายที่จะเปิดเผยเต้านมที่มีตำหนิกับรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดของเธอ เธอยังบอกทุกคนอย่างขำขันว่าเธอใส่ฟองน้ำในชุดชั้นในเพื่อให้หน้าอกซ้ายของเธอเสมือนจริง ในเดือนเมษายน 2015 หยางซูหรงได้รับรางวัล "ผู้พิชิตมะเร็ง" จากคณะกรรมการฟอรัมวิชาการด้านเทคนิคกำจัดมะเร็งแบบบาดแผลเล็กสมัยแรกของอาเซียนสําหรับการยิ้มสู้มะเร็งและจิตวิญญาณในการช่วยเหลือผู้อื่น
หยางซูหรงและสามีถ่ายรูปร่วมกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
-
มะเร็งคอ
- คุณประสิทธิ์
-
ประเทศไทย
อยู่ได้นานกว่า 9 ปี
-
แผนการรักษา:
เทคนิคแบบเฉพาะจุด + เทคนิคการใช้ความเย็น
-
ประวัติย่อ:
ก่อนเข้ารับการรักษาหลังจากเข้ารับการรักษาไปหนึ่งครั้งปี 2017 4เมษายน เป็นครั้งแรกที่ได้ทานอาหารไทยในประเทศจีน คุณประสิทธิ์มีความสุขมาก ดูเหมือนว่าเขาจะกินปลาไปเกือบทั้งตัว “อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่ดีที่สุดมื้อหนึ่งเท่าที่ผมเคยกินมาในรอบ 4 ปี!” เขาได้กล่าวออกมาอย่างพึงพอใจหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว เนื่องจากก้อนเนื้อขนาดใหญ่บริเวณคอ ทำให
ดูเพิ่มเติม >
-
มะเร็งปอด
- คุณอมร
-
ประเทศไทย
อยู่ได้นานกว่า 4 ปี
-
แผนการรักษา:
เทคนิคคีโมเฉพาะจุด+คลื่นไมโครเวฟบริเวณหลอดลม+การฝังแร่+ภูมิคุ้มกันบำบัด
-
ประวัติย่อ:
คุณอมร อายุ 77 ปี จากประเทศไทย เดือนมีนาคม ปี 2562 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 ไม่ได้เข้ารับการรักษาใดๆ วันที่ 29 เดือนมีนาคม มาถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว เข้ารับการรักษาด้วยวิธีบาดแผลเล็ก ผลการรักษาพบว่าก้อนเนื้อบริเวณปอดข้างซ้ายมีขนาดเล็กลงอย่างชัดเจน ต่อมน้ำเหลืองที่โตบริเวณช่องอกสลายไป สุขภาพร่างกายอยู่ในสถานะที่สมบ
ดูเพิ่มเติม >
-
มะเร็งปอด
- ปุณยนุช
-
ไทย
อยู่ได้นานกว่า 1 ปี
-
แผนการรักษา:
การคีโมเฉพาะจุด
-
ประวัติย่อ:
ในกระบวนการรักษาคุณรู้สึกประทับใจที่สุดเมื่อไร? จริงๆแล้วประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกเลยค่ะ ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม… ในทุกๆครั้งอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะความเจ็บปวดบนร่างกายของฉันมันบรรเทาลงจริงๆ
ก่อนจะมารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสตมฟอร์ด ฉันต้องกินยาแก้ปวดวันละหลายครั้ง แต่ละครั้งเว้นช่วงแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ตอนนี้ไม่ได้กิน
ดูเพิ่มเติม >
-
มะเร็งเต้านม
- หลัว อ้ายเสีย
-
อินโดนีเซีย
อยู่ได้นานกว่า 8 ปี
-
แผนการรักษา:
การคีโมเฉพาะจุด + ธรรมชาติบำบัด
-
ประวัติย่อ:
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ทางเลือกแรกของฉัน
คุณหลัวเป็นชาวอินโดนีเซียและเป็นผู้ป่วยที่ประสบความสำเร็จในการรักษามะเร็งเต้านมและรอดชีวิตมาได้นานกว่า 8 ปี ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 คุณหลัวพบก้อนเนื้อที่เต้านมซ้าย หลังจากตรวจร่างกายพบว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำนมข้างซ้าย คุณหลัวตกใจและเศร้าโศก แต่ไม่นานคุณหลัวก็ดึงตัวเองกลับมาได้ เพราะถ้าเธอยัง
ดูเพิ่มเติม >
-
มะเร็งเต้านม
- หวัง โยวฮวา
-
อินโดนีเซีย
อยู่ได้นานกว่า 12 ปี
-
แผนการรักษา:
รักษาด้วยวิธีการคีโมเฉพาะจุด
-
ประวัติย่อ:
ฉันชื่อ หวัง โยวฮวา มาจากซูราบายาอินโดนีเซีย จากปี 2554 ถึงปี 2566 ฉันต่อสู้กับมะเร็งได้สำเร็จมาเป็นเวลา 12 ปี จากความตื่นตระหนกและวิตกกังวลเมื่อฉันได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกจนถึงทุกวันนี้ ผู้คนจำนวนมากขนานนามฉันว่าเป็นผู้กล้าต้านมะเร็งและทูตต่อต้านมะเร็ง ฉันผ่านอะไรมามากมาย และประสบการณ์ต้านมะเร็งบอกฉันว่าเมื่อมะเร็งมาเยือน ควรวินิจฉัยและรักษาตั้งแต
ดูเพิ่มเติม >