การเดินทางในการต่อสู้มะเร็งเข้าสู่ปีที่ 6
ชายตรงหน้าอายุ 68 ปี สวมหมวกสีดำ ดวงตายิ้มแย้มเป็นประกาย เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง เขาชื่อนัวร์ดีน จากเมืองดูไม จังหวัดรีเยา ประเทศอินโดนีเซีย นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาติดตามอาการหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด การเดินทางในการต่อสู้มะเร็งของเขาเข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว
อันที่จริง เขาเอาชนะมะเร็งส่วนหนึ่งได้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน สิ่งที่น่ายินดีคือผลตรวจติดตามผลครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ตอนนี้เขา "เอาชนะ" มะเร็งได้สำเร็จแล้ว
นัวร์ดีน
วีธีบาดแผลเล็ก ช่วยชายชราวัยหกสิบปีเอาชนะมะเร็งลำไส้ตรง
เดือนกันยายน 2560 นัวร์ดีนมีอาการอุจจาระปนเลือด เจ็บปวดจนเกินจะทนไหว จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่นประเทศมาเลเซีย ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ตรงระยะสอง แพทย์ท้องถิ่นแนะนำให้เขาผ่าตัด แต่ด้วยอายุของเขา การผ่าตัดจึงมีความเสี่ยงสูงมาก เขาและครอบครัวได้ตัดสินใจปฏิเสธคำแนะนำนี้ ขณะนั้นนัวร์ดีนได้พบว่าหลานชายของเขาป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง รับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดแล้วได้ผลกาารักษาที่ดี นี่จึงทำให้เขาได้มีความหวังอีกครั้ง
จากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ต พวกเขาได้พบว่าโรงพยาบาลมีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย จึงได้ไปที่สำนักงานเพื่อรับคำปรึกษา “สำนักงานที่เมืองเมดาน แพทย์ได้วินิจฉัยทางไกลผ่านทางออนไลน์และได้ให้คำแนะนำถึงทิศทางการรักษาและข้อมูลการรักษาวิธีต่างๆ อย่างละเอียด ซึ่งช่วยไขข้อกังวลใจให้กับเขา เขาจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปเข้ารับการรักษาที่ต่างประเทศ รับการรักษาด้วยวิธีบาดแผลเล็ก”นัวร์ดีน
กล่าว
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
เดือนธันวาคม 2560 นัวร์ดีนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หลังตรวจร่างกาย ด้วยอายุที่มากและก้อนเนื้อที่โตขึ้นบริเวณอวัยวะที่ยากและซับซ้อน ทีมแพทย์ MDT ได้วางแผนการรักษาให้แก่เขาโดยใช้การคีโมเฉพาะจุดกับควบคู่กับการฉายแสงและธรรมชาติบำบัด
การคีโมเฉพาะจุดคือการรักษาโดยการสอดท่อทางหลอดเลือดแดง ฉีดยาต้านมะเร็งเข้าไปในหลอดเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็งโดยตรง เพื่อฆ่าก้อนมะเร็ง วิธีนี้มีผลข้างเคียงน้อย บาดแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็วและรักษาได้ตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ สิ่งที่ทำให้นัวร์ดีนรู้สึกประหลาดใจก็คือ หลังจากทำคีโมเฉพาะจุดไปสองครั้ง อาการปวดท้องของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด อาการอุจจาระปนเลือดก็ค่อยๆ ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นนี้ ยิ่งเพิ่มกำลังใจในการต่อสู้กับโรคมะเร็งให้กับเขา
ในระหว่างเดือนมกราคม 2561 ถึงเดือนเมษายน 2562 นัวร์ดีนได้เข้ารับการรักษาที่โรงมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจวอย่างสม่ำเสมอและให้ความร่วมมือกับแพทย์อย่างแข็งขัน
ในเดือนมกราคม 2563 เขากลับมาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจซ้ำอีกครั้ง จากผล CT MRI และการผลการส่องกล่องที่ลำไส้พบว่า ก้อนเนื้อที่อยู่ในร่างกายของเขาหายไปทั้งหมดแล้ว อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณของการกลับมาเป็นซ้ำ ขอแค่หมั่นกลับมาตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จากการรักษาด้วยวิธีบาดแผลเล็ก เขาได้ “เอาชนะ”มะเร็งลำไส้ใหญ่ไปได้ก้าวหนึ่งแล้ว
ตรวจอีกครั้งหลังสามปี ตื่นเต้นกับข่าวดีที่ได้รับ
เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ช่องทางการติดต่อกับต่างประเทศถูกตัดขาด ทำให้นัวร์ดีนไม่สามารถกลับมาตรวจเช็คร่างกายได้ สามปีมานี้ ร่างกายของเขาไม่มีอาการผิดปกติอื่นใดเลย ขอเพียงทานยาให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ เป็นที่รู้กันว่า เขาทำธุรกิจ ทุกวันจะต้องเดินไปบริษัทเพื่อตรวจเช็คงาน ในยามว่างเขาก็จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ใช้เวลาร่วมกัน และในที่สุดช่วงเวลายากลำบากที่ต้องคอยเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านและโรงพยาบาลก็สิ้นสุดลง
เดือนมิถุนายน 2566 เขาได้ไปที่โรงพยาบาลสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดอีกครั้งเพื่อรับการตรวจ แต่ครั้งนี้นัวร์ดีนได้ทำการส่องกล้องลำไส้ตรง จากผลตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ อีกทั้งร่างกายของเขาก็ยังสบายดีเป็นปกติ แพทย์ผู้ดูแลกล่าวว่า อาการของเขาไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต้องไป สามารถใช้ชีวิตและทำงานได้เหมือนคนปกติแล้ว จากข้อความนี้ ทำให้เขาและครอบครัวดีใจเป็นอย่างมาก
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
ผล CT ปี 2560 vs ผล CT ปี 2566
เขากล่าวอย่างดีใจ: “เส้นทางการต่อสู้กับมะเร็ง ผมไม่ได้สู้เพียงลำพัง ครอบครัวของผมคอยอยู่เคียงข้างในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อได้ยินข่าวดีนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็ดีใจไปด้วยกันกับผม”ในการรักษาหลายปีมานี้ ลูกเขยของนัวร์ดีนได้อยู่เคียงข้างเขาเสมอ คอยดูแลเรื่องเสื้อผ้า อาหาร การเป็นอยู่และการเดินทาง ทำให้เขารู้สึกไม่โดดเดี่ยวยามที่อยู่ต่างแดน
ผลการส่องกล้องลำไส้ล่าสุดของนัวร์ดีน
ผู้ดูแลที่รู้ใจ และการบริการที่เอาใจใส่
นัวร์ดีนนำเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับเขา ยกความดีความชอบให้กับแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว เขากล่าวอย่างจริงใจ: “ขอขอบคุณแพทย์พยาบาลผู้ดูแลและล่าม ถ้าหากไม่มีรอยยิ้มของพวกเขา เทคนิคการรักษาและการบริการที่ดี ผู้ป่วยก็คงไม่สามารถต่อสู้กับความโดดเดี่ยวเพียงลำพังได้ พวกเขาไม่เพียงแค่ให้การรักษาและบริการที่ดี แต่ยังให้ความหวังในการมีชีวิตของผมด้วย”
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ช่วงเวลา 3 ปีที่ห่างหายไป แล้วได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง นัวร์ดีนรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคย เขากล่าวว่า สำหรับเขาแล้วการมีอยู่ของที่แห่งนี้คือสิ่งที่พิเศษ “หลายปีก่อน ตอนที่ผมรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มีพยาบาลอยู่คนหนึ่งที่คอยดูแลผมตลอดเวลา เธอดูแลเอาใจใส่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมาก ครั้งนี้ผมได้เจอเธออีกครั้ง ผมดีใจมากเหมือนได้เจอลูกสาว”
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของทางโรงพยาบาลก็มีคุณค่ามาก “ในช่วงที่รับการรักษา ได้เข้าร่วมการท่องเที่ยวการแพทย์ของทางโรงพยาบาลรู้สึกมีความสุขมาก มันทำให้พวกเราหนีจากความเจ็บปวดจากโรคได้ชั่วขณะหนึ่ง ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ”
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง เขาให้ความสำคัญกับความอดทน ความกล้าหาญและการมองโลกในแง่ดี “เส้นทางการต่อสู้กับโรคมะเร็งแม้ว่าจะยากลำบาก แต่จิตใจจะต้องสงบนิ่ง ยืนหยัดอดทนเผชิญหน้ากับมะเร็ง มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ และอย่ายอมแพ้ให้กับโรคมะเร็ง”