“ตอนอยู่ที่อินโดนีเซีย มีแพทย์รักษาไม่มากนัก และก็เข้าพบยากมากเช่นกัน แต่ในขณะที่อยู่ที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ผมสามารถพบแพทย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งโรงพยาบาลยังมอบการบริการแบบครอบคลุมให้กับผม ไม่ว่าจะเป็นด้านแผนการรักษา หรือการราวน์วอร์ดประจำวัน ก็ทำได้ดีกว่าที่อินโดนีเซียมาก”หงชิงเสียงตอบ เมื่อถูกถามถึงข้อแตกต่างระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดกับโรงพยาบาลในอินโดนีเซีย
ภาพถ่ายหงชิงเสียง
8 ซม. คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความอดทนของเขา
“ในตอนที่ผมไม่สามารถนอนราบได้ ทำได้แต่นอนตะแคงแล้วหลับไป ทั้งยังมีเลือดออก เจ็บทวารหนักอย่างที่สุด ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก” หงชิงเสียงกล่าวขณะที่นึกย้อนไปในช่วงเวลาที่ร่างกายทุกข์ทนกับความเจ็บปวดจากโรคมะเร็งลำไส้ตรง หงชิงเสียง (HENDRY ANGGLES) อายุ 62 ปี เป็นผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ตรงระยะที่ 4 จากประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนกรกฎาคม ปี 2559 ร่างกายที่ดูเหมือนจะแข็งแรงของหงชิงเสียงได้เกิดอาการข้างต้น หลังจากที่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลท้องถิ่นอินโดนีเซีย หงชิงเสียงก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ตรงระยะที่ 4 ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ทั้งแพทย์อินโดนีเซียและมาเลเซียต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การผ่าตัดคือทางออกสำหรับเขา แต่เมื่อคำนึงถึงอันตรายที่จะตามมา หงชิงเสียงจึงปฏิเสธแผนการผ่าตัดไป
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ในเรื่องนี้ ลูกๆ ของ หงชิงเสียง ไม่ยอมละทิ้งโอกาสที่จะเข้ารับการรักษา ในที่สุด เมื่อค้นหาทางอินเทอร์เน็ต พวกเขาได้รู้ว่าโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวมีเทคโนโลยีการรักษาที่ครอบคลุมและบาดเจ็บน้อยซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกิดจากการรักษาเพียงหนึ่งวิธี
หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบและหารือกับครอบครัวของเขาแล้ว หงชิงเสียงก็มาโรงพยาบาลของเราในเดือนพฤศจิกายน 2560 พร้อมด้วยครอบครัวของเขา หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าหงชิงเสียงมีเนื้องอกในทวารหนักขนาดประมาณ 8*10 ซม. และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งทวารหนักระยะที่ 4 เพื่อรักษาอาการของหงชิงเสียง ทีมแพทย์ MDT ของโรงพยาบาลได้ปรับแผนการรักษาที่ครอบคลุมให้เขา ซึ่งรวมถึง "การทำคีโมเฉพาะจุด + การฝังแร่ + การใช้ยามุ่งเป้า" ดร.หู กล่าวว่า สำหรับบริเวณเนื้องอกหลักในร่างกายของหงชิงเสียงนั้น การทำคีโมเฉพาะจุดนั้นเป็นวิธีการรักษาหลัก ทั้งนี้ ยาต้านมะเร็งจะถูกฉีดเข้าไปในเนื้องอกโดยตรงเพื่อทำลายมะเร็งผ่านการคีโมทางหลอดเลือดร่วมกับการอุดเส้นเลือด สำหรับเนื้อเยื่อโดยรอบที่ถูกมะเร็งแพร่กระจายนั้นจะใช้การบำบัดด้วยการฝังแร่ การฝังแร่ไอโอดีน125ลงในพื้นที่เป้าหมายนั้น แร่จะปล่อยรังสีแกมมาฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำซึ่งมีความปลอดภัยสูง สุดท้ายเสริมด้วยการใช้ยามุ่งเป้า การรักษาด้วยวิธีนี้จะขัดขวางการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและลดการกลับเป็นซ้ำของเนื้องอก การรวมกันของวิธีการรักษาทั้ง 3 วิธีข้างต้นสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ดีขึ้น และยืดอายุของผู้ป่วย
ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2563 หงชิงเสียงเดินทางไปมาระหว่างทั้งสองประเทศหลายครั้ง โดยให้ความร่วมมือในการรักษาในโรงพยาบาลและควบคุมอาการของเขา จนกระทั่งผลตรวจ CT ครั้งสุดท้ายในปี 2563 พบว่าเนื้องอกในทวารหนักของเขาเล็กลงจาก 10 ซม. เป็น 2 ซม. เนื้องอกได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพมาก ก้อนเล็กลงไป 8 ซม. การรักษาแบบบาดแผลเล็กได้มอบแสงสว่างให้แก่ชีวิตหงชิงเสียง ราวกับว่าเป็นคำชมเชยของพระเจ้าสำหรับความไม่ยอมแพ้ต่อการรักษาโรคมะเร็ง ยอมเดินทางหลายพันไมล์เพื่อมารักษาในต่างประเทศ เมื่อมาถึงจุดนี้ การเดินทางมารักษาโรคของหงชิงเสียงจึงสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ
ภาพ CT ขณะที่หงชิงเสียงมารักษาครั้งแรกเมื่อปี 2560
หลังจากรักษาไปสี่ปี ผมก็ได้รับความประหลาดใจ
หลังจากที่หงชิงเสียงตรวจ CT ครั้งสุดท้ายในปี 2563 พบว่าเนื้องอกได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ เขาก็กลับไปที่บ้านเกิดเพื่อพักฟื้นและรอการตรวจครั้งต่อไป ในวันถัดไปหลังกลับจากจีน ช่องทางการสื่อสารระหว่างทั้งสองประเทศก็ถูกปิดลงเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้เขาไม่สามารถกลับไปติดตามผลที่โรงพยาบาลได้
“ช่วงพักผ่อนอยู่บ้านไม่ได้ทานยาอะไร แต่เลือกทานอาหารมากขึ้น เช่น ทานน้ำมันให้น้อยลง ออกกำลังกายและตากแดดบ่อยๆ” เมื่อถามถึงการใช้ชีวิตและพักฟื้นของเขาในช่วงที่ไม่สามารถกลับไปติดตามผลที่โรงพยาบาล หงชิงเสียงกล่าวตอบ “เพราะผมรู้ว่าการรักษามะเร็งไม่เพียงพึ่งพาแค่แพทย์และเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตและพฤติกรรมการทานอาหารอีกด้วย ถึงจะทำให้ประสิทธิภาพของการรักษาออกมาดียิ่งขึ้น”
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
4 ปีต่อมา ในวันที่ 22 มิถุนายน 2566 หงชิงเสียงกลับมาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยกว่างโจวสแตมฟอร์ดอีกครั้งเพื่อติดตามผลการรักษา หงชิงเสียงกล่าวว่า ไม่ว่าเขาจะทำงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่บ้าน โดยรวมแล้วเขาก็ไม่แตกต่างจากคนทั่วไปและสภาพโดยรวมของเขาดีมาก หลังจากการตรวจร่างกายพบว่าเนื้องอกในทวารหนักของ หงชิงเสียง หายไปอย่างน่าอัศจรรย์ เรื่องนี้ทำให้หงชิงเสียงและครอบครัวของเขามีความสุขมาก“ผมยังจำได้ว่าตอนตรวจครั้งแรกผมไม่กล้าฟังผลเลย แต่คราวนี้ผมได้ลองเปิดใจ คุณหมอเก่งและมีฝีมือมาก ผมรู้สึกขอบคุณภรรยาและลูกๆ ที่อยู่เคียงข้างผมมานานหลายปีและต้องผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน" เมื่อนึกถึงตอนที่คุณหมอหู แจ้งผลการตรวจ หงชิงเสียงก็เผยสีหน้าภาคภูมิใจและรอยยิ้มออกมา
เนื้องอกขนาด 2 ซม. <ซ้าย> เมื่อออกจากโรงพยาบาลในปี 2563
เนื้องอกหายไปในระหว่างทำการรักษาในปี 2566 <ขวา>
“ขอขอบพระคุณคุณหมอหู และบุคลากรทางการแพทย์ชั้น 8 ทุกคน ตลอดจนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในโรงพยาบาล ผมขอขอบคุณโรงพยาบาลสำหรับเทคโนโลยีและบริการที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมมาทำคีโมเฉพาะจุดที่โรงพยาบาลครั้งแรก ก็เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนแล้ว" หงชิงเสียง แบ่งปันประสบการณ์และกล่าวขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่
ภาพถ่ายของหงชิงเสียงและคุณหมอหูหยิง
รูปถ่ายของหงชิงเสียงกับครอบครัวและล่าม
ต่อมาหงชิงเสียงกล่าวคำอวยพรต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งเช่นเขา ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การรักษาของเขาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว“สำหรับผู้ป่วยมะเร็งรายอื่นๆที่เหมือนผม คุณสามารถไว้วางใจโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวได้ (พวกคุณ)สามารถติดต่อโรงพยาบาลผ่านสำนักงานในพื้นที่และมารักษาที่โรงพยาบาลได้ ขณะเดียวกัน ผมขอให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนเผชิญหน้ากับโรคนี้อย่างอดทน กล้าหาญและใจเย็น คุณต้องเชื่อมั่นว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ครอบครัว เพื่อนของคุณ ตลอดจนแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลจะร่วมเดินทางไปกับคุณ
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
หงชิงเสียงยกนิ้วให้กล้อง