การใช้ความร้อน
- 0
- 2023-09-05
ชนิดของการรักษา: กระแสความถี่สองกระแสที่ไม่เหมือนกันตัดผ่านในร่างกาย จุดที่ตัดกันนั้นจะส่งผลรบกวนสนามไฟฟ้าทำให้เซลล์มะเร็งมีมีอุณหภูมิระดับ42.5องศาเซลเซียส ถึง 43.5 องศาเซลเซียส ทำต่อเนื่องกันอย่างต่ำ 40 นาที ทำให้เซล
ข้อดีทางเทคนิค: กระแสความถี่สองกระแสที่ไม่เหมือนกันตัดผ่านในร่างกาย จุดที่ตัดกันนั้นจะส่งผลรบกวนสนามไฟฟ้าทำให้เซลล์มะเร็งมีมีอุณหภูมิระดับ42.5องศาเซลเซียส ถึง 43.5 องศาเซลเซียส ทำต่อเนื่องกันอย่างต่ำ 40 นาที ทำให้เซล
นิยาม
กระแสความถี่สองกระแสที่ไม่เหมือนกันตัดผ่านในร่างกาย จุดที่ตัดกันนั้นจะส่งผลรบกวนสนามไฟฟ้าทำให้เซลล์มะเร็งมีอุณหภูมิระดับ42.5 องศาเซลเซียส ถึง 43.5 องศาเซลเซียส ทำต่อเนื่องกันอย่างต่ำ 40 นาที ทำให้เซลล์มะเร็งถูกระงับการเจริญเติบโตและทำให้เซลล์นั้นตายได้ ทั้งทำให้เซลล์นั้นได้รับพิษเคมีโดยตรง อีกทั้งผลลัพธ์ของการทำคีโมและฉายแสงสามารถ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
หลักการ
เนื่องจากสภาพของเนื้องอกมีเส้นเลือดของเนื้อเยื่อเจริญเติบโตและหลอดเลือดมีความต้านทานมากกว่าที่อื่นและประสาทรับความรู้สึกมีความร้อนมากกว่าเส้นเลือดปกติ จึงลำบากในการระบายความร้อน
การใช้เทคนิคการให้ความร้อนเมื่อก้อนเนื้อเยื่อมีอุณหภูมิสูงกว่าเนื้อเยื่อปกติประมาณ 5 ถึง10 องศาเซลเซียส เนื้อเยื่อปกติจะทนต่อความร้อนได้42.5 องศาเซลเซียส ถึง 43.5 องศาเซลเซียส แต่เซลล์มะเร็งจะทนไม่ได้ การให้ความร้อนทำลายเซลล์มะเร็งและไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์เนื้อเยื่อปกติ จึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ผมร่วง ไขกระดูกทำงานผิดปกติ เป็นต้น
>>ถ้าเกิดว่าคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็ง คลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ทำไมความร้อนสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้
1.ความร้อนจะสามารถทำลายเยื่อหุ้มเซลล์มะเร็งก่อน ในขณะเดียวกันความร้อนสามารถยับยั้ง DNA และ RNA และการสังเคราะห์โปรตีน ทำให้มีการยับยั้งเซลล์มะเร็งมากขึ้น ส่งผลให้เซลล์มะเร็งถูกทำลาย
2.ความร้อนทำให้ไลโซโซมมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นในมะเร็ง ปล่อยกรดไฮโดรเลสจำนวนมาก ทำให้เยื่อหุ้มเซลล์มะเร็งมีการแตกร้าวส่งผลให้เซลล์มะเร็งถูกทำลาย
3.ความร้อนสามารถทำให้เซลล์มะเร็งขาดออกซิเจน ส่งผลให้เซลล์มะเร็งมีการหายใจระดับเซลล์แบบไม่ใช้ออกซิเจน ทำให้เกิดการสะสมของกรดแลคติก เมื่อกรดและเอนไซม์เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้เซลล์มะเร็งตายลงในที่สุด
4.ความร้อนสามารถป้องกันการกระตุ้นและเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพิ่มความสามารถการกำจัดมะเร็งในร่างกาย ซึ่งเป็นจุดที่การฉายแสงแบบดั้งเดิมและการผ่าตัดไม่สามารถทำได้
จุดเด่น
1.มีผลข้างเคียงน้อย
2.สามารถควบคุมอุณหภูมิความร้อนได้อย่างแม่นยำ
3.สามารถเพิ่มความร้อนบริเวณเซลล์มะเร็งที่อยู่ภายนอกและภายในร่างกายได้โดยตรง
4.ถ้าใช้ควบคู่กับการทำคีโมและการฉายแสงจะทำให้ผลลัพธ์ของการทำคีโมและฉายแสงได้ผลที่ดียิ่งขึ้น
>>ถ้าเกิดว่าคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็ง โทร0610367888 หรือ 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
ผู้ป่วยที่เหมาะสมใช้วิธีนี้
1.มะเร็งชนิดก้อนแข็ง
2.ผู้ที่มีภาวะน้ำท่วมปอดหรือช่องท้อง
3.มะเร็งที่อยู่ลึกบริเวณช่องอก ช่องท้องและอุ้งเชิงกราน
4.มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งรังไข่ และมะเร็งมดลูกเป็นต้น